กฎหมายวัฒนธรรมกับการแช่แข็งมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
Culture Law and Intangible Cultural Heritage Freezing
บทคัดย่อ
กฎหมายเป็นมาตรการหนึ่งในการช่วยรักษาวัฒนธรรม ซึ่งเป็นกระแสที่ทั่วโลกเรียกร้องให้แต่ละประเทศสร้างกฎหมายเพื่อรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และก่อให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างรัฐในการพิทักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ให้คงอยู่ ด้วยเหตุที่วัฒนธรรมประเภทนี้สะท้อนคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อัตลักษณ์ และเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่สามารถนำรายได้มาสู่ชุมชน สำหรับประเทศไทยมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พุทธศักราช 2559 แต่กฎหมายฉบับดังกล่าวกลับได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการแช่แข็งมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เพราะเป็นการทำให้วัฒนธรรมถูกรักษาอย่างคงที่ และสกัดกั้นการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมให้เหมาะสมกับยุคสมัย และสภาพแวดล้อม บทความฉบับนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อศึกษา วิเคราะห์ และเสนอแนะแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พุทธศักราช 2559 โดยการนำอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 มาปรับใช้ เนื่องจากอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 เป็นความตกลงระหว่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์ในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และได้รับการยอมรับจากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งจากการศึกษาพบว่ามาตรการตามอนุสัญญาสามารถลดข้อจำกัดการรักษาวัฒนธรรมอย่างคงที่ และปรากฏมาตรการที่สนับสนุนการพัฒนามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ไปสู่อนาคต อันเป็นประโยชน์ต่อการนำมาปรับใช้เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พุทธศักราช 2559 ไปสู่อนาคตเพื่อให้การรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมสามารถปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ผู้ใช้วัฒนธรรม และวิถีชีวิตต่อไปได้