การพัฒนากลไกและมาตรการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านกฎหมายของคนไร้สัญชาติ กลุ่มชาติพันธุ์โดยผ่านการศึกษากฎหมายเชิงคลินิก : กรณีศึกษาบ้านวังใหม่ ตำบลร่องเคาะ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง*

Development of Mechanisms and Measures to Promote Legal Literacy of Nationalityless Persons of Ethnic Groups through Clinical Legal Education: The case study of Wang Mai Village, Rong Koh Sub-district, Wang Nuea District, Lampang Province

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ความเข้าใจในทางกฎหมายโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับกระบวนการ ตรวจพิสูจน์สถานะการเกิดและการรับรองสิทธิในสัญชาติของคนไร้สัญชาติกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย และเพื่อเสนอ แนวทางในการจัดตั้งคลินิกกฎหมายชุมชนให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายในการดำเนินการขอมีสัญชาติไทยระเบียบวิธี วิจัยของการศึกษาเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม อันรวมทั้งบุคลากรภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชนในพื้นที่ผลการศึกษาพบว่าการขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายสัญชาติของคนไร้สัญชาติดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อกระบวนการตรวจพิสูจน์การเป็นผู้มีสัญชาติไทยเป็นอย่างมากกรณีมีความจำเป็นที่จักต้อง ให้ความรู้ทางกฎหมายแก่บุคคลข้างต้น นอกจากนี้ยังพบอีกว่ากลไกและมาตรการการเผยแพร่ความรู้กฎหมายที่เกี่ยว กับสิทธิในสัญชาติทำให้คนไร้สัญชาติกลุ่มชาติพันธุ์อันได้แก่ ชนเผ่าลั๊วะมีโอกาสได้รับการพิจารณาคำขอให้มีสัญชาติ ไทย ได้มากขึ้น การศึกษาวิจัยได้เสนอแนะให้มีการจัดตั้งคลินิกกฎหมายชุมชนด้วยความร่วมมือ และการสนับสนุนของ เครือข่ายองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและประชาชนในพื้นที่บ้านวังใหม่ หมู่ที่12ตำบลร่องเคาะอำเภอ วังเหนือ จังหวัดลำปาง ทั้งนี้โดยมีเป้าหมายหลัก หรือพันธกิจในการเผยแพร่ความรู้และการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายสัญชาติแก่คนไร้สัญชาติกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่อันก่อให้เกิดการพัฒนาความร่วมมือที่มีลักษณะยั่งยืน ระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ และชุมชนในการแก้ไขปัญหาสิทธิในสัญชาติต่อไป และกรณีนี้ถือเป็นแบบ (Model) สำหรับ ชุมชนอื่น ๆ ในจังหวัดลำปาง นอกจากนี้กรณีนี้ยังสามารถใช้แบบดังกล่าวในการพัฒนาจัดทำหลักสูตรนวัตกรรม การจัดการตนเองซึ่งเน้นการพัฒนาโดยใช้พื้นที่ของชุมชนเป็นตัวตั้งและใช้กระบวนการการมีส่วนร่วม โดยให้คนในพื้นที่ ร่วมคิด ร่วมกันแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ผู้คนในชุมชนจักได้เรียนรู้ถึงการนำนวัตกรรมมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ